เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ของที่ต้องมีสำหรับทุกบ้าน

ทุกวันนี้ ของชิ้นไหนที่ควรมีติดบ้านไว้แทบทุกหลัง? หลายคนอาจจะนึกถึงหม้อทอดไร้น้ำมัน พัดลมไอเย็น หรือเครื่องฟอกอากาศ... แต่รู้มั้ยว่าอีกหนึ่งไอเทมที่กำลังขึ้นแท่นเป็น "ของสามัญประจำบ้าน" อย่างแท้จริง ก็คือ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย (Cordless Vacuum Cleaner) เครื่องเล็ก แต่พลังใหญ่ และสำคัญกว่านั้นคือ มันเปลี่ยนชีวิตประจำวันให้ง่ายขึ้นแบบรู้สึกได้ โดยเฉพาะสำหรับบ้านที่มีสมาชิกเยอะ มีสัตว์เลี้ยง หรืออยู่คอนโดที่มีพื้นที่จำกัด

ความหมายของ "เครื่องดูดฝุ่น" คืออะไร?

เครื่องดูดฝุ่น (Vacuum Cleaner) คือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อดูดฝุ่นและสิ่งสกปรกออกจากพื้นผิวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นแห้ง ฝุ่นเปียก เส้นผม ขนสัตว์ เศษไม้เศษทราย และขยะชิ้นใหญ่ เป็นต้น  โดยใช้พลังดูดจากมอเตอร์ดึงฝุ่นเข้าไปเก็บในถุงหรือกล่องเก็บภายในตัวเครื่อง การมีเครื่องดูดฝุ่นดี ๆ สักเครื่อง ไม่เพียงแต่ช่วยกำจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกในบ้านเท่านั้น แต่ยังช่วยทุ่นแรงให้คุณไม่ต้องเหนื่อย และท้อแท้กับการทำงานบ้านจนเกินไป ในปัจจุบัน เครื่องดูดฝุ่นได้พัฒนาให้มีหลายรูปแบบมากขึ้น โดยเฉพาะ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ที่สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องพึ่งปลั๊กไฟ ไม่ต้องลากสายให้ยุ่ง และเหมาะกับการใช้งานในบ้านยุคใหม่อย่างแท้จริง

ประเภทของเครื่องดูดฝุ่น

 

 

2 เครื่องดูดฝุ่นมือถือ
เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กกะทัดรัด มีน้ำหนักที่เบา แถมยังเป็นแบบไร้สาย ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ซึ่งเครื่องดูดฝุ่นรูปแบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานสำหรับดูดฝุ่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ในพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น ดูดฝุ่นบนโต๊ะทำงาน ดูดฝุ่นตามเบาะรถยนต์ หรือซอกมุมเล็ก ๆ ไม่นิยมใช้งานเป็นเครื่องดูดฝุ่นหลักภายในบ้าน เพราะมีกำลังดูดน้อย แถมยังทำให้เสียเวลา เมื่อใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่

3.เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย / เครื่องดูดฝุ่นด้ามจับ
เครื่องดูดฝุ่นที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะมีลักษณะเหมือนด้ามจับไม้กวาด แม้จะมีกำลังดูดไม่สูงเท่ากับเครื่องดูดฝุ่นแบบกล่อง แต่แลกมาด้วยความสะดวกสบาย และดีไซน์ที่สวยงามมากกว่าเดิม เป็นแบบไร้สาย ปราศจากกล่องเก็บฝุ่น ทำให้ไม่ต้องเสียบปลั๊กไฟตามจุดต่าง ๆ แต่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แทน ไม่มีสายไฟเกะกะเวลาใช้งาน เดินดูดฝุ่นได้สะดวกยิ่งขึ้น

 

4.เครื่องดูดฝุ่นแบบหุ่นยนต์
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติ ช่วยให้การทำความสะอาดบ้านของคุณง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งคุณเพียงแค่เปิดเครื่องและตั้งค่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นให้พร้อม จากนั้นหุ่นยนต์จะทำการดูดฝุ่นทำความสะอาดให้เอง ด้วยการใช้ระบบเซนเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวาง และเซนเซอร์ตรวจหาสิ่งสกปรก ที่สำคัญ เครื่องดูดฝุ่นแบบหุ่นยนต์รุ่นใหม่บางรุ่นยังมีระบบเคลื่อนที่ไปยังจุดชาร์จแบตเตอรี่ได้ด้วย

5.เครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรม
เครื่องดูดฝุ่นประสิทธิภาพสูง มักมาพร้อมขนาดที่ใหญ่และกำลังแรงดูดที่สูงมาก ในบางรุ่นยังมีฟังก์ชันใช้งานครบจบในตัวเดียว ไม่ว่าจะช่วยดูดฝุ่น ดูดน้ำ ดูดขยะเปียก หัวฉีดน้ำยาทำความสะอาด หรือแม้แต่เป่าลมแห้ง หลังล้างทำความสะอาดให้แล้วด้วย เป็นเครื่องดูดฝุ่นที่เหมาะสำหรับใช้งานโรงงานอุตสาหกรรม และพื้นที่ขนาดใหญ่ ๆ

วิธีเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นให้เหมาะกับบ้านของคุณ

"ไม่ใช่แค่แรงดูดแรง... แต่ต้องตรงใจและตรงบ้านด้วย" เครื่องดูดฝุ่นทุกวันนี้มีให้เลือกหลากหลายมาก ทั้งแบบมีสาย ไร้สาย แบบหุ่นยนต์ แบบดูดเปียก/แห้ง หรือแม้แต่แบบพกพา แต่รู้มั้ยครับว่า การจะเลือกให้ได้ เครื่องดูดฝุ่นที่ "ใช่" ไม่ใช่แค่ดูว่าแรงดูดแรง หรือแบรนด์ดังเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาให้ตรงกับ ลักษณะบ้าน การใช้งานจริง และความถี่ในการใช้งาน เพราะเครื่องดูดฝุ่นไม่ใช่ของถูก ถ้าซื้อผิด ชีวิตเปลี่ยนได้จริง

1.ขนาดบ้านมีผลต่อการเลือกเครื่องดูดฝุ่นมากกว่าที่คิด
ถ้าบ้านคุณเป็นคอนโดหรือบ้านขนาดเล็ก เช่น ห้องชุด 1-2 ห้องนอน ขนาดไม่เกิน 60 ตารางเมตร การเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นที่ เบา คล่องตัว ใช้งานเร็ว เก็บง่าย จะให้ประโยชน์มากที่สุด เครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สายขนาดเล็กหรือรุ่นที่ใช้แบตเตอรี่ระดับ 10.8V12V ก็เพียงพอสำหรับการดูดฝุ่นในชีวิตประจำวัน ไม่จำเป็นต้องเลือกแบบแรงดูดสูงหรือขนาดใหญ่ เพราะจะเกะกะและใช้งานไม่คุ้ม

ในทางกลับกัน ถ้าบ้านของคุณมีขนาดใหญ่ หรือเป็นบ้านสองชั้น มีห้องหลายห้อง และมีพื้นที่ใช้สอยเยอะ เครื่องดูดฝุ่นไร้สายระดับแรง เช่น 18V ขึ้นไป จะตอบโจทย์มากกว่า เพราะมีพลังในการดูดฝุ่นจากหลายพื้นผิวได้ดีกว่า และสามารถใช้งานต่อเนื่องได้หลายห้องโดยไม่ต้องชาร์จระหว่างกลาง รุ่นที่มีหัวดูดหลากหลายแบบ หรือมีระบบแปรงหมุนจะช่วยทำความสะอาดได้ลึกมากยิ่งขึ้น

2. พื้นบ้านต่างกัน เครื่องดูดฝุ่นที่เหมาะก็ต่างกัน
พื้นบ้านแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะที่ต้องใช้หัวดูดและแรงดูดที่เหมาะสม เช่น พื้นไม้ปาร์เก้หรือพื้นไม้ลามิเนตจะบอบบางต่อแรงกดและแรงหมุนจากหัวแปรง จึงควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีหัวดูดแบบเรียบ ไม่มีแปรงหมุน และน้ำหนักเบา เพื่อไม่ให้ทำลายพื้น

แต่ถ้าบ้านคุณปูพรมเต็มพื้นที่ หรือตกแต่งด้วยผ้าห่ม หมอน หรือโซฟาผ้าเยอะ ควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีหัวแปรงหมุน (Motorized Brush) ซึ่งช่วยกระตุ้นใยพรมให้ฝุ่นหลุดออกและดูดได้ลึกกว่า อีกทั้งต้องมีแรงดูดมากพอที่จะดูดฝุ่นละอองที่ฝังแน่นในเส้นใยพรมหรือผ้าได้จริง ไม่ใช่แค่ดูดผิว ๆ แล้วทิ้งฝุ่นไว้ด้านใน

3. พฤติกรรมการใช้ชีวิต = ตัวกำหนดว่าเครื่องแบบไหนถึงจะเวิร์ก
หลายบ้านอาจคิดว่าเครื่องดูดฝุ่นเป็นของใช้เสริม ใช้เฉพาะเวลามีฝุ่นเยอะ ๆ หรือมีเวลาดูแลบ้าน แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบความสะอาดทุกวัน มีเด็กเล็ก หรือเลี้ยงสัตว์ในบ้าน เช่น น้องหมาน้องแมว เครื่องดูดฝุ่นจะกลายเป็นของใช้ประจำวันทันที เพราะบ้านที่มีขนสัตว์หรือฝุ่นละเอียดต้องการการดูดฝุ่นบ่อย และเครื่องต้องพร้อมใช้งานเสมอ

ดังนั้น ถ้าคุณเป็นสายดูดฝุ่นทุกวัน ควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่เบา เปิดใช้งานง่าย ใช้แล้วเก็บสะดวก ไม่ต้องเสียเวลาต่อสายหรือหาปลั๊ก เช่น รุ่น Dongcheng DCXC12 หรือ MAKITA 10.8V จะตอบโจทย์มาก ขณะที่ถ้าเน้นใช้งานหนักและไม่อยากชาร์จบ่อย เครื่องระดับแบต 18V อย่าง MAKITA DCL286FZ (มีให้เลือกถึง 3 สี) จะเหมาะกับสายบ้านใหญ่ ใช้แรงดูดสูง และพร้อมทำงานหนักทุกวัน

4. เลือกจาก ใครใช้ มากกว่าแค่ ใช้ที่ไหน
เรื่องนี้หลายคนมองข้าม เพราะคิดว่าซื้อเครื่องดูดฝุ่นมาแล้ว ใคร ๆ ก็ใช้ได้ แต่จริง ๆ แล้ว ผู้ใช้งานหลัก มีผลต่อการเลือกมาก เช่น ถ้าเป็นผู้สูงอายุ คนท้อง หรือแม่บ้านที่ต้องใช้เครื่องดูดฝุ่นบ่อย ๆ ควรเลือกเครื่องที่มีน้ำหนักเบา ด้ามจับถนัดมือ และไม่ต้องกดแรงระหว่างใช้งาน เพราะเครื่องที่หนักเกินไปจะกลายเป็นภาระในระยะยาว

นอกจากนี้ ยังควรดูว่าเครื่องสามารถใช้งานได้ทั้งแนวตั้ง แนวนอน มีหัวต่อดูดเพดานหรือซอกแคบได้หรือไม่ เพราะบ้านแต่ละหลังมีความสูง ความกว้างต่างกัน เครื่องที่ดัดแปลงการใช้งานได้หลายทิศทางจะช่วยให้ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องหรือซื้ออุปกรณ์เสริมเยอะ และหากมีเสียงเบาด้วย จะเหมาะกับบ้านที่มีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยงที่ไวต่อเสียง

5. งบประมาณไม่ใช่ทุกอย่าง แต่ก็สำคัญ
สุดท้าย การเลือกเครื่องดูดฝุ่นต้องพิจารณาจากงบประมาณด้วย แน่นอนว่าเครื่องดูดฝุ่นไร้สายคุณภาพสูงอาจมีราคาสูงกว่ารุ่นทั่วไป แต่ถ้าคุณใช้ทุกวัน ใช้หนัก และไม่อยากเปลี่ยนบ่อย การลงทุนกับรุ่นที่ดีและทนจะประหยัดระยะยาวมากกว่าซื้อถูกแต่เสียบ่อย

หากงบจำกัด สามารถเริ่มต้นที่รุ่นขนาดเล็กอย่าง MAKITA 10.8V CL104DWY หรือรุ่น Dongcheng DCXC12 ที่ราคาสบายกระเป๋าและตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดีมาก แต่ถ้ามีงบและต้องการความคุ้มค่าในระยะยาว รุ่น MAKITA 18V DCL286FZ หรือ FZB/FZW จะมีประสิทธิภาพสูงกว่า ใช้งานต่อเนื่องได้นาน และเปลี่ยนแบตได้ง่ายกว่า

วิธีเก็บรักษาเครื่องดูดฝุ่นให้ใช้งานได้ยาวนาน

เพราะของดี ถ้าไม่ดูแล ก็พังไวได้เหมือนกัน! เครื่องดูดฝุ่น โดยเฉพาะรุ่น ไร้สาย ที่พกพาง่าย เบา และสะดวกนั้น แม้จะทนทานแต่ก็ต้องได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี เพื่อยืดอายุการใช้งาน และให้แรงดูดเต็มประสิทธิภาพตลอดทุกครั้งที่หยิบมาใช้ ดำเกิงรวบรวมวิธีดูแลรักษาแบบละเอียดมาให้แล้วครับ

1.เทฝุ่นและล้างถังเก็บฝุ่นเป็นประจำ

• อย่าปล่อยให้ฝุ่นเต็มถัง เพราะจะทำให้แรงดูดลดลง และมอเตอร์ทำงานหนักขึ้น
• ควร เทฝุ่นทุกครั้งหลังใช้งาน โดยเฉพาะถ้าใช้งานกับฝุ่นละเอียด เส้นผม หรือขนสัตว์
• ถังเก็บฝุ่นที่ล้างน้ำได้ ควร ล้างให้สะอาดแล้วตากให้แห้ง ก่อนนำกลับมาใช้งาน

ทริค: หากใช้บ่อย ควรล้างถังเก็บฝุ่นอย่างน้อย สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อความสะอาดและป้องกันกลิ่นอับ

2.ดูแลแผ่นกรองฝุ่น (Filter) อย่างสม่ำเสมอ

• แผ่นกรอง (Filter) เป็นหัวใจของการกรองฝุ่นก่อนเข้าสู่มอเตอร์ หากอุดตัน แรงดูดจะตกทันที
• รุ่นที่มี แผ่นกรอง HEPA ควรนำมาปัดฝุ่นหรือล้างเบา ๆ (ถ้าระบุว่าสามารถล้างได้) แล้วผึ่งให้แห้งสนิท
• บางรุ่นมี ฟิลเตอร์สำรอง ให้เปลี่ยน ควรเปลี่ยนทุก 6 เดือน 1 ปี ขึ้นกับความถี่ในการใช้งาน

ทริค: ถ้าเครื่องเริ่มมี เสียงดังผิดปกติ หรือดูดไม่แรงเหมือนเดิม ให้เช็กแผ่นกรองเป็นอันดับแรกเลยคับ

3.ดูแลแบตเตอรี่ให้ดี = เครื่องอายุยืน

• ห้ามชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืน หรือใช้งานจนแบตหมดเกลี้ยงทุกครั้ง
• ชาร์จเมื่อแบตเหลือประมาณ 30-40% และถอดปลั๊กเมื่อชาร์จเต็ม
• ถ้าไม่ใช้เป็นเวลานาน ควรชาร์จแบตไว้ ราว 50% แล้วถอดออก เก็บในที่แห้ง อุณหภูมิปกติ

ทริค: ถ้าแบตเตอรี่เสื่อม จะทำให้แรงดูดตกอย่างเห็นได้ชัด หากใช้มานานกว่า 1-2 ปี ให้เตรียมเปลี่ยนแบตล่วงหน้า

4.ทำความสะอาดหัวดูดและท่อต่อเป็นประจำ

• หัวดูดมักมี เส้นผม ขนสัตว์ พันติดอยู่ ซึ่งทำให้หมุนช้าและดูดฝุ่นได้น้อยลง
• ควรใช้กรรไกรหรือคัตเตอร์ ตัดเส้นผมออก และปัดฝุ่นรอบหัวแปรงทุก 1-2 สัปดาห์
• ท่อต่อและหัวดูดแคบที่เข้าไปถึงซอกมุม ควรตรวจสอบว่า ไม่มีเศษขยะอุดตัน หรือฝุ่นหนาเกินไป

ทริค: ใช้แปรงเล็กหรือแปรงสีฟันเก่า ช่วยปัดทำความสะอาดหัวแปรงได้ง่ายขึ้นคับ

5.หลีกเลี่ยงการดูดของเหลว หากเครื่องไม่ได้รองรับ

• เครื่องดูดฝุ่นไร้สายทั่วไป ไม่สามารถดูดน้ำ หรือของเหลวได้
• หากดูดของเปียก อาจทำให้มอเตอร์ไหม้ หรือเกิดไฟฟ้าลัดวงจร

ยกเว้น: บางรุ่นที่เป็น เครื่องดูดฝุ่น-ดูดน้ำได้โดยเฉพาะ ให้เช็กคู่มือก่อนใช้งานทุกครั้งคับ

6.เก็บเครื่องในที่แห้ง หลีกเลี่ยงแดดและความชื้น

• แนะนำให้เก็บเครื่องดูดฝุ่นไว้ในที่แห้ง อากาศถ่ายเทดี และไม่ใกล้แหล่งน้ำหรือเตาไฟ
• ห้ามวางในที่ร้อนจัด เช่น หลังตู้เย็น หรือหน้าต่างที่แดดส่อง เพราะจะทำให้พลาสติกกรอบเร็ว
• หากบ้านมีฝุ่นเยอะมาก อาจคลุมเครื่องด้วยผ้าหรือถุงคลุมฝุ่นแบบบาง ๆ

7.ใช้งานอย่างถูกวิธี และเลือกหัวดูดให้เหมาะกับพื้นผิว

• อย่าใช้หัวดูดพื้นไปดูดโซฟา หรือพรม เพราะจะทำให้หัวดูดสึกไว
• หัวดูดแคบใช้เฉพาะซอกมุม หัวแปรงใช้กับพรม หัวพื้นเรียบใช้กับพื้นกระเบื้องหรือไม้
• อย่าใช้แรงกดเครื่องกับพื้น เพราะอาจทำให้หัวดูดเสียเร็วขึ้น

ทริค: บางรุ่นมีหัวแปรงแบบหมุน (Motorized Brush) ควรเปิด/ปิดให้เหมาะกับพื้นผิว เช่น พื้นแข็งให้ปิดแปรง พรมให้เปิดแปรง

แนะนำเครื่องดูดฝุ่นไร้สายคุณภาพ ที่ต้องมีติดบ้าน

ถ้าพี่กำลังมองหาเครื่องดูดฝุ่นไร้สายดี ๆ สักเครื่อง วันนี้ดำเกิงรวมมาให้ 4 รุ่นคุณภาพจากแบรนด์ดัง ที่เหมาะทั้งสำหรับใช้งานในบ้าน คอนโด หรือร้านค้าขนาดเล็กคับ!

คุณสมบัติเด่น:

• แรงดูดดี ใช้ได้ทั้งดูดพื้นทั่วไปและพรมบาง
• ถังเก็บฝุ่นระบบไซโคลน ช่วยแยกฝุ่นอย่างมีประสิทธิภาพ
• น้ำหนักเบาเพียง 1.1 กก. ใช้งานได้นาน 20-30 นาทีต่อการชาร์จ
• ดีไซน์น่ารัก ถือใช้งานง่าย เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
• มาพร้อมแบตเตอรี่และแท่นชาร์จครบเซต

เหมาะสำหรับ: ห้องนอน คอนโด พื้นไม้/พื้นกระเบื้อง

2. Dongcheng รุ่น DCXC12 เครื่องดูดฝุ่นไร้สายสุดคุ้ม

 

คุณสมบัติเด่น: 

• มอเตอร์พลังสูง ใช้งานได้ทั้งฝุ่นละออง ขนสัตว์ เศษผง
• แบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 12V ใช้งานต่อเนื่องได้นาน
• หัวดูดอเนกประสงค์ ใช้ได้หลายพื้นผิว
• ราคาคุ้มค่า เหมาะกับผู้เริ่มต้นใช้เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย

เหมาะสำหรับ: บ้านทั่วไป ร้านเล็ก ห้องครัว

3. MAKITA 18V DCL286 Series มือโปรของจริง พลังดูดขั้นเทพ

มีให้เลือก 3 สี (เฉพาะตัวเครื่องเปล่า):

คุณสมบัติเด่น:

• ใช้มอเตอร์แบบ BL (Brushless) พลังดูดสูง แรงต่อเนื่อง
• แบตเตอรี่ 18V (ใช้ร่วมกับเครื่องมือ MAKITA 18V อื่น ๆ ได้)
• ระบบกรอง 2 ชั้น พร้อมถังเก็บฝุ่นขนาดใหญ่
• มีไฟ LED ส่องพื้น พร้อมหัวดูดที่ปรับระดับได้
• ดีไซน์สวย สปอร์ต ทนทาน เหมาะกับงานหนัก

เหมาะสำหรับ: บ้านขนาดใหญ่, ร้านค้า, ใช้คู่กับแบต MAKITA เดิมได้

4. MAKITA CL107FDZW (12V สีขาว) มินิมอล เรียบหรู ใช้งานคล่อง

สีขาวสวย เรียบง่าย รุ่นเครื่องเปล่า (ไม่รวมแบต)

คุณสมบัติเด่น:

• ใช้แบต 12V Max (แชร์กับ MAKITA 12V Series ได้)
• แรงดูด 3 ระดับ เลือกได้ตามความต้องการ
• น้ำหนักเบา ใช้งานสะดวกแม้มือเดียว
• ถังฝุ่นขนาดกำลังดี ถอดล้างง่าย
• ดีไซน์ขาวล้วน ดูสะอาด เหมาะกับบ้านสไตล์ญี่ปุ่น/มินิมอล 

เหมาะสำหรับ: คอนโด, ห้องนอน, ผู้ใช้ที่มีแบต MAKITA 12V อยู่แล้ว

สรุป: เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย = ลงทุนครั้งเดียว คุ้มยาวนาน

ในทุกวันนี้ ผู้บริโภคไม่ได้มองหาแค่ เครื่องดูดฝุ่น ที่แค่ดูดฝุ่นได้เท่านั้น แต่ยังมองหาความสะดวกความคล่องตัว และดีไซน์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตจริง ไม่ว่าจะเป็นคนวัยทำงานที่ไม่มีเวลา หรือแม้แต่บ้านที่มีสัตว์เลี้ยงและต้องจัดการเรื่องความสะอาดตลอดเวลา

สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม
แวะมาได้ที่ฮาร์ดแมน ศูนย์รวมเครื่องมือช่าง พระราม 3
️หรือทักอินบ็อกซ์เพจได้เลย มีทีมงานตอบไว พร้อมส่งทั่วประเทศคับ!

ที่มาของข้อมูล
https://bwell.co.th/blog/vacuum-cleaner/