แชร์

"รู้ลึก รู้จริง เครื่องเป่าลมร้อน เครื่องมือช่างที่คุณอาจมองข้าม"

อัพเดทล่าสุด: 1 ก.ค. 2025
383 ผู้เข้าชม

ในโลกของงานช่างและ DIY มีเครื่องมือหลายชนิดที่เราคุ้นเคยกันดี เช่น สว่าน ไขควง หรือเครื่องตัด แต่น้อยคนนักที่จะให้ความสนใจกับ เครื่องเป่าลมร้อน แม้ว่ามันจะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและมีประโยชน์มากมายกว่าที่คิด เครื่องเป่าลมร้อนถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่สามารถทำให้งานที่ซับซ้อนกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น ช่วยประหยัดเวลา ลดแรงงาน และเพิ่มความแม่นยำในการทำงานอย่างมาก  หลายคนอาจจะเคยเห็นเครื่องเป่าลมร้อนเพียงแค่ในร้านฮาร์ดแวร์ หรือเคยใช้แบบผ่าน ๆ เท่านั้น แต่รู้หรือไม่ว่า เครื่องนี้มีประโยชน์ครอบคลุมตั้งแต่การลอกสีเก่า หดท่อหุ้มสายไฟ ละลายน้ำแข็ง ไปจนถึงการซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และงานฝีมือชั้นสูง เครื่องเป่าลมร้อนจึงไม่ใช่แค่เครื่องมือสำหรับช่างมืออาชีพเท่านั้น แต่ยังเหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไปที่ชื่นชอบงาน DIY หรือผู้ที่ต้องการเครื่องมือสารพัดประโยชน์ติดบ้านไว้ใช้งาน

เครื่องเป่าลมร้อนคืออะไร?

เครื่องเป่าลมร้อน (Hot Air Gun) คือเครื่องมือที่เป่าลมด้วยอุณหภูมิสูง โดยภายในจะมีลวดความร้อนที่ทำให้ลมที่ออกมามีอุณหภูมิสูงมาก โดยทั่วไปสามารถปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ประมาณ 100°C จนถึงเกือบ 600°C ขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อ เครื่องมือชนิดนี้ออกแบบมาเพื่อใช้ในงานช่างที่ต้องการความร้อนตรงจุด เช่น ลอกสีเก่า หดท่อหุ้มสายไฟ ทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ติดแน่น หรือแม้แต่การละลายน้ำแข็ง เครื่องเป่าลมร้อนจึงเป็นเครื่องมืออเนกประสงค์ที่มีประโยชน์หลากหลาย

ทำไมเครื่องเป่าลมร้อนถึงสำคัญในงานช่างและงาน DIY

เครื่องเป่าลมร้อนมีบทบาทสำคัญในงานช่างและ DIY เพราะช่วยให้กระบวนการทำงานง่ายและรวดเร็วขึ้น เช่น การลอกสีหรือกาวเก่าที่ติดแน่น หากใช้เครื่องเป่าลมร้อนจะช่วยให้งานลอกสีลอกกาวสะดวกกว่าใช้เครื่องมือธรรมดา นอกจากนี้ยังช่วยในงานซ่อมแซม เช่น หดท่อหุ้มสายไฟที่ชำรุด หรือแม้แต่ใช้ทำงานศิลปะและงานฝีมืออย่างการทำโมเดล งานรีแพร์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือชนิดนี้จึงเป็นตัวช่วยที่สำคัญมากในกลุ่มช่างมืออาชีพและผู้รักงาน DIY


วิธีเลือกเครื่องเป่าลมร้อนให้เหมาะกับงานของคุณ
  •   กำลังวัตต์ เครื่องที่มีกำลังสูงจะให้ความร้อนและลมแรงกว่า เหมาะกับงานหนัก
  •   การปรับอุณหภูมิและความแรงลม เครื่องบางรุ่นสามารถปรับได้ละเอียด ทำให้งานมีความแม่นยำมากขึ้น
  •   หัวเปลี่ยนหลากหลาย หัวแบบเป่าแคบ เหมาะกับจุดเล็ก ๆ หัวแบบกว้างสำหรับเป่าพื้นที่ใหญ่
  •   น้ำหนักและการจับถนัดมือ ควรเลือกเครื่องที่จับถนัด ไม่หนักเกินไป เพื่อให้ใช้งานได้นานโดยไม่ล้า
  •   ฟังก์ชันเสริม เช่น ระบบป้องกันความร้อนเกิน หรือระบบตัดไฟอัตโนมัติ ช่วยยืดอายุการใช้งานและความปลอดภัย

ข้อควรระวังและวิธีใช้เครื่องเป่าลมร้อนอย่างปลอดภัย

การใช้เครื่องเป่าลมร้อนอย่างปลอดภัยเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานในบริเวณที่มีวัตถุไวไฟ หรือที่มีเด็กเล็กอยู่ใกล้ นอกจากนี้ควรใช้งานในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทได้ดี และไม่ควรเป่าลมร้อนติดต่อกันนานเกินไปเพื่อป้องกันความร้อนสะสมที่จะทำให้เครื่องเสียหาย ควรวางเครื่องในที่ปลอดภัยเมื่อไม่ใช้งาน และตรวจเช็คสายไฟหรือปลั๊กก่อนใช้งานทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

เครื่องเป่าลมร้อนกับเครื่องเป่าลมธรรมดาต่างกันยังไง?

เครื่องเป่าลมร้อน (Hot Air Gun) หรือที่ช่างบางคนเรียกว่า ไดเป่าลมร้อน หรือ Heat Gun
ลักษณะและการทำงาน: 

  • มีระบบทำความร้อนในตัว ทำให้ลมที่เป่าออกมามีอุณหภูมิสูง (บางรุ่นสามารถปรับได้ตั้งแต่ 50°C ไปจนถึง 600°C)
  • ใช้ลมร้อนในการทำให้วัสดุยืด หด ลอก หลอม หรือทำปฏิกิริยาบางอย่างกับวัสดุที่ไวต่อความร้อน
  • มีหัวเป่าหลายแบบเพื่อควบคุมทิศทางและความเข้มของลมร้อน

งานที่เหมาะกับเครื่องเป่าลมร้อน:

  • หดท่อหดความร้อน (Heat Shrink Tube) บนสายไฟ
  • ลอกสี ลอกสติกเกอร์ ออกจากพื้นผิว
  • ถอดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ บนแผงวงจร (เช่น SMD)
  • อบพลาสติกให้นิ่ม เพื่อดัดหรือขึ้นรูป
  • เชื่อมพลาสติกบางประเภท เช่น แผ่น PP หรือ PE
  • ละลายกาวหรือซิลิโคนเก่า เพื่อให้ถอดออกง่าย
  • เป่าทำให้แห้งเร็ว ในงานทาสีบางจุด

จุดเด่น:

  • ใช้งานได้หลายวัตถุประสงค์โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวกับ ความร้อน
  • อุณหภูมิสูง ควบคุมได้แม่นยำ (บางรุ่นมีหน้าจอดิจิตอล)
  • หัวเป่าหลากหลายแบบให้เลือกตามลักษณะงาน

ข้อควรระวัง:

  • ไม่ควรเป่าใกล้วัสดุไวไฟ เช่น ผ้า พลาสติกบางประเภท
  • ถ้าใช้งานผิดวิธีอาจทำให้ชิ้นงานไหม้หรือเสียหายได้

เครื่องเป่าลมธรรมดา (Blower) หรือบางคนเรียกว่า เครื่องเป่าลมเปล่า หรือ เป่าฝุ่น
ลักษณะและการทำงาน:

  • เป่าลมเย็นออกมาแรง ๆ โดยไม่มีระบบให้ความร้อน
  • ใช้ใบพัดหมุนภายในดึงอากาศเข้าและอัดลมออก
  • ลมที่ออกมาเน้นแรงปริมาณมาก ความเร็วสูง ไม่เน้นร้อน

 

งานที่เหมาะกับเครื่องเป่าลมธรรมดา:

  • เป่าฝุ่นจากเครื่องจักรหรือแผงวงจร โดยไม่ทำให้ร้อน
  • เป่าทำความสะอาดอุปกรณ์ไฟฟ้า, คีย์บอร์ด, พัดลม, มอเตอร์ ฯลฯ
  • เป่าขี้เลื่อยในงานไม้
  • เป่าใบไม้หรือเศษขยะเล็ก ๆ ในสนามหรือพื้นที่เปิด
  • เป่าแห้งน้ำหยด บนชิ้นงานที่ไม่ต้องใช้ความร้อน

จุดเด่น:

  • ลมแรงมาก เหมาะกับการ เป่าออก อย่างเดียว
  • ใช้งานง่าย ไม่มีความร้อน ไม่เสี่ยงต่อวัสดุไหม้
  • น้ำหนักเบา บางรุ่นใช้งานได้ทั้งเป่าและดูดฝุ่นกลับเข้าเครื่อง (2 in 1)

ข้อควรระวัง:

  • เป่าแรงเกินไปอาจทำให้ฝุ่นฟุ้งกลับเข้าจมูกหรือกระแทกอุปกรณ์ที่บอบบาง
  • ไม่เหมาะกับงานที่ต้องใช้ความร้อน เช่น ลอกสติ๊กเกอร์ หดพลาสติก

ทำไมเครื่องเป่าลมร้อนถึงเป็น ของมันต้องมี สำหรับช่างมือโปร
เครื่องเป่าลมร้อนถือเป็นเครื่องมือที่ ของมันต้องมี เพราะความหลากหลายของงานที่สามารถใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็นงานซ่อมแซม งานปรับปรุง หรือแม้แต่การสร้างสรรค์งานฝีมือ เครื่องมือชิ้นนี้ช่วยให้การทำงานรวดเร็วและง่ายขึ้น ลดความลำบากในการใช้แรงงานมากเกินไป นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความแม่นยำและคุณภาพของงานทำให้ผลงานดูเป็นมืออาชีพ และยังเป็นเครื่องมือที่มีราคาจับต้องได้ จึงเหมาะกับทั้งช่างมืออาชีพและผู้ที่รักงาน DIY

แนะนำเครื่องเป่าลมร้อนคุณภาพ ราคาย่อมเยาว์ จากแบรนด์ดัง 


1.เครื่องเป่าลมร้อน 2000 วัตต์ PUMPKIN รุ่น 50191/J-H2020

คุณสมบัติเด่น:
  • ปรับได้ 2 ระดับความร้อน: 350°C / 550°C
  • ปรับแรงลมได้ 2 ระดับเช่นกัน
  • มีระบบป้องกันความร้อนเกิน (Thermal Protection)
  • ด้ามจับออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ไม่ลื่นมือเวลาทำงานนาน
  • มาพร้อมหัวเป่าหลายแบบ ใช้ได้หลายฟังก์ชัน เช่น หดท่อ หดสติ๊กเกอร์ หรือเป่าพลาสติก

เหมาะกับ: ช่างมืออาชีพ, ร้านติดตั้งฟิล์ม, งานลอกสี, งานบัดกรี หรือแม้แต่งานงาน DIY บ้าน ๆ


2.เครื่องเป่าลมร้อน 2,000 วัตต์ POLO รุ่น QG-001

คุณสมบัติเด่น:
  •  ปรับระดับความร้อนและแรงลมได้ 2 ระดับ
  • ตัวเครื่องทนร้อนดี ใช้งานได้ต่อเนื่อง
  • แถมหัวเป่า 4 ชิ้นในกล่อง (ครบทั้งแบน-กลม-เฉียง-แคบ)
  • มาพร้อมกล่องเก็บพกพาสะดวก
เหมาะกับ: ช่างไฟ ช่างยนต์ งานตกแต่ง งานซ่อมแซมบ้าน
 
3.เครื่องเป่าลมร้อน WG750 POLO
 

คุณสมบัติเด่น:
  • กำลังไฟเพียง 750 วัตต์ (ต่ำกว่ารุ่นอื่น)
  • น้ำหนักเบามาก พกง่าย
  • มีหัวเป่าแถมให้ในกล่อง
  • เหมาะสำหรับใช้งานเบา หรือพื้นที่จำกัด
เหมาะกับ: แม่บ้าน, งานเบา ๆ เช่น หดพลาสติก ซองแพ็กของ

 

4.เครื่องเป่าลมร้อน STANLEY STEL670


คุณสมบัติเด่น:

  • ปรับอุณหภูมิได้ 2 ระดับ: 400°C และ 600°C
  • มีฟังก์ชันปรับแรงลมได้ (มากกว่ารุ่นทั่วไป)
  • วัสดุแข็งแรง ทนความร้อนสูง ตัวเครื่องหนักแน่น
  • เหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้ความร้อนต่อเนื่องนาน ๆ
  • ผลิตภายใต้มาตรฐาน STANLEY สายช่างทั่วโลกเชื่อมั่น

เหมาะกับ: งานช่างมืออาชีพ, โรงงาน, ลอกสีรถ, งานติดฟิล์มขนาดใหญ่

5.เครื่องเป่าลมร้อน HYUNDAI 2,000 วัตต์ HD 252

คุณสมบัติเด่น:

  • ปรับความร้อนได้ 2 ระดับ
  • ดีไซน์ทันสมัย วัสดุแข็งแรง
  • หัวเป่าแถมมาหลายแบบ ครบชุด
  • น้ำหนักไม่มาก ทำให้ถือได้ต่อเนื่องไม่เมื่อย

เหมาะกับ: งานซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า, หดสายไฟ, แกะสติ๊กเกอร์

6.เครื่องเป่าลมร้อนไฟฟ้า VALU รุ่น 85A1

คุณสมบัติเด่น:

  • ตัวเครื่องเบา ใช้งานง่าย
  • ปรับระดับลมและความร้อนได้
  • มีหัวเป่าครบให้ในกล่อง
  • ออกแบบเน้นใช้งานทั่วไปในบ้าน งาน DIY และซ่อมแซมเบื้องต้น

เหมาะกับ: ช่างทั่วไป, เจ้าของบ้าน, ร้านงานเบา

7.เครื่องเป่าลมร้อน INGCO รุ่น HG200078

 
 

คุณสมบัติเด่น: 

  • ปรับอุณหภูมิได้ 2 ระดับ: 350°C / 600°C
  • แรงลม: 300 / 500 ลิตรต่อนาที
  • ดีไซน์โมเดิร์น มีแผงควบคุมเข้าใจง่าย
  • หัวเป่าให้มาครบ ใช้งานหลากหลาย

เหมาะกับ: งานทั่วไป, งาน DIY, งาน craft, หดท่อ

เครื่องเป่าลมร้อนไร้สาย

1.DEWALT รุ่น DCE530N (เครื่องเปล่า)

 
คุณสมบัติเด่น:
  • ใช้แบตเตอรี่ 18V XR (Lithium-ion)
  • ปรับความร้อนได้ 2 ระดับ: 290°C (Low) และ 530°C (High)
  • ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุดประมาณ 42 นาที (ในโหมด Low)
  • สวิตช์ล็อกสำหรับการเป่าแบบต่อเนื่อง
  • ดีไซน์กะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
  • มาพร้อมหัวเป่าลมร้อน 2 แบบ (หัวแบนและหัวกรวย)

เหมาะกับงาน:
  • หดท่อหุ้มสายไฟ (Heat Shrink)
  • ลอกสติ๊กเกอร์ ลอกสี
  • งาน DIY หรือช่างไฟฟ้า
  • ใช้งานในพื้นที่แคบหรือไร้ไฟฟ้า

2.Makita รุ่น DHG181ZK (ตัวเปล่า)
 

คุณสมบัติเด่น:
  • ใช้แบตเตอรี่ 18V LXT
  • ปรับอุณหภูมิได้ละเอียด: 150°C - 550°C
  • มีหน้าจอ LCD แสดงอุณหภูมิ (ใช้งานแม่นยำมากขึ้น)
  • ปรับความแรงลมได้ 2 ระดับ
  • มีระบบป้องกันความร้อนเกิน
  • มาพร้อมกล่องเก็บเครื่อง (ZK = พร้อมกล่อง)
  • ทนทานตามสไตล์ Makita ใช้งานต่อเนื่องได้ดี

เหมาะกับงาน:
  • หดท่อ ลอกสี เป่ากาวละลาย
  • งานอิเล็กทรอนิกส์ / งานไฟฟ้าประณีต
  • ใช้ในงานอุตสาหกรรมหรือช่างมืออาชีพ

3.BOSCH รุ่น GHG 18V-50 (ไร้สาย)
 
 
คุณสมบัติเด่น:
  • ใช้แบตเตอรี่ 18V (กลุ่มเดียวกับ Bosch Professional)
  • อุณหภูมิสูงสุด 500°C 
  • ร้อนเร็วภายใน 5 วินาที
  • มีระบบ Electronic Cell Protection (ECP) ป้องกันแบตเสื่อม
  • ทนทาน มาตรฐานมืออาชีพ
  • ออกแบบให้ใช้งานง่ายในพื้นที่จำกัด
เหมาะกับงาน:
  • ลอกสี หดท่อ หดพลาสติก
  • งานติดตั้งสายไฟ/สาย LAN
  • ใช้งานในไซต์งานที่ต้องเคลื่อนที่บ่อย
สรุป: เครื่องเป่าลมร้อน ตัวช่วยงานช่างที่มากกว่าความร้อน
เครื่องเป่าลมร้อนไม่ใช่แค่เครื่องมือธรรมดา แต่เป็นตัวช่วยชิ้นสำคัญในงานซ่อมแซมและตกแต่งที่หลากหลาย ตั้งแต่งานลอกสี หดท่อพลาสติก เป่ากาว ดัดพลาสติก เป่าฝุ่น นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นที่ทำให้คนทั่วไปสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเป็นช่างมืออาชีพ เช่น ขนาดกะทัดรัด, น้ำหนักเบา, ปรับลมได้หลายระดับ และมีหัวเป่าหลายแบบให้เปลี่ยน ทำให้การใช้งานปลอดภัยขึ้น ใช้งานได้แม่นยำขึ้น

สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม
แวะมาได้ที่ฮาร์ดแมน ศูนย์รวมเครื่องมือช่าง พระราม 3
หรือทักอินบ็อกซ์เพจได้เลย มีทีมงานตอบไว พร้อมส่งทั่วประเทศคับ!

บทความที่เกี่ยวข้อง
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ