แชร์

ภารกิจลับของคีม! รู้ไว้ งานช่างจะง่ายขึ้นเยอะ

อัพเดทล่าสุด: 31 พ.ค. 2025
91 ผู้เข้าชม

คีมดูเผิน ๆ อาจจะหน้าตาคล้ายกันไปหมด แต่จริง ๆ แล้วพวกมันมี "สกิล" ที่แตกต่างกันสุด ๆ คับ เหมือนเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ที่แต่ละตัวมีพลังพิเศษไม่ซ้ำกัน บางตัวเชี่ยวชาญการตัด บางตัวเก่งในการจับยึด ส่วนบางตัวถนัดทำงานในพื้นที่แคบ ๆ โดยเฉพาะ ถ้าเราเลือกใช้คีมผิดกับงานที่ทำ ก็ไม่ต่างอะไรกับการส่งนักว่ายน้ำไปปีนเขาเลยคับนอกจากจะเหนื่อยเปล่า ยังอาจพังงานและพาให้เครื่องมือชำรุดก่อนเวลาอันควรด้วย

ในโลกของงานช่าง การรู้จักคีมแต่ละชนิดให้ดีจึงไม่ใช่แค่เรื่องของความรู้ทั่วไป แต่มันคือทักษะพื้นฐานที่ช่วยให้งานเดินเร็วขึ้น เนี้ยบขึ้น และปลอดภัยขึ้นแบบเห็นผลชัด และแน่นอนช่วยให้คุณดูเป็นมือโปรมากขึ้นในสายตาลูกค้าหรือคนข้าง ๆ ด้วยคับ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักคีมแต่ละชนิดแบบเจาะลึก ทั้งหน้าที่หลัก จุดเด่น และข้อควรระวัง เหมือนเรากำลังรวมทีมซูเปอร์ฮีโร่สายเครื่องมือช่าง ที่พร้อมออกภารกิจให้คุณลุยทุกงานได้อย่างมั่นใจ!

 

คีม มีกี่ชนิด แต่ละชนิดใช้งานต่างกันอย่างไร

คีม เป็นเครื่องมือช่างพื้นฐานที่มีหลากหลายรูปแบบตามลักษณะงานแต่ละประเภท แม้จะหน้าตาคล้ายกัน คีม แต่ละชนิดถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานเฉพาะทางแตกต่างกันไป ตั้งแต่การจับ บีบ ดัด งอ ตัด ไปจนถึงการปลอกสายไฟ การติดตั้งห่วงล็อก ฯลฯ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัย เราจึงจำเป็นต้องรู้จักคุณสมบัติของคีมแต่ละประเภทอย่างละเอียด คีมมีหลายรุ่นให้เลือกใช้ ตอบโจทย์ทั้งช่างมืออาชีพและงาน DIY ในบ้าน ในบทความนี้จะอธิบายถึงลักษณะการใช้งาน จุดเด่น และวิธีเลือกคีมแต่ละชนิดอย่างครบถ้วน โดยแบ่งตามประเภทดังนี้

คีมปากจิ้งจก (Slip-Joint Pliers)

คิดซะว่านี่คือ "คีมอเนกประสงค์ตัวแรกของโลก" มันคือคีมสามัญประจำบ้านที่ใช้งานได้หลากหลายสุดๆ ด้วยความสามารถในการปรับขากรรไกรให้กว้างขึ้นหรือแคบลงได้ ทำให้มันจับ บีบ ดัด หรือแม้แต่ตัดอะไรบางอย่างได้ในตัวเดียว ถือเป็นคีมสารพัดประโยชน์ที่เหมาะกับงานทั่วไป ตั้งแต่งานไฟฟ้า ประปา ไปจนถึงงานซ่อมบำรุงจุกจิกในบ้าน

สกิลเด่น:

  • ปรับขนาดปากได้: จับวัตถุได้หลายขนาด ไม่ว่าจะเป็นน็อต ท่อ หรือชิ้นงานต่างๆ
  • อเนกประสงค์: เป็นเหมือนไม้ตายเวลาไม่มีคีมเฉพาะทาง สามารถใช้จับ หนีบ ตัดลวดบางๆ หรือขันน็อตเล็กๆ ได้ดีในระดับหนึ่ง

เหมาะสำหรับ: มือใหม่หัดซ่อม หรือใครที่อยากมีคีมติดบ้านไว้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน

วิธีเลือกคีมปากจิ้งจก : 

  • ขนาด: เลือกขนาดที่เหมาะมือและงานที่ทำบ่อยๆ โดยทั่วไปขนาด 6-8 นิ้วเป็นมาตรฐานที่ดีสำหรับการใช้งานทั่วไป ถ้างานใหญ่ขึ้น เช่น จับท่อขนาดใหญ่ อาจพิจารณาขนาด 10 นิ้วขึ้นไป
  • วัสดุ: ตรวจสอบความแข็งแรงของเหล็กที่ใช้ผลิต และคุณภาพการชุบแข็ง คีมที่ทำจากเหล็กคาร์บอนชุบแข็งจะทนทานและป้องกันสนิมได้ดี
  • ด้ามจับ: ควรเลือกด้ามจับที่หนา กระชับมือ และทำจากวัสดุที่ลดความเมื่อยล้าขณะใช้งาน หากใช้กับงานไฟฟ้า ควรเลือกรุ่นที่หุ้มฉนวนกันไฟฟ้า (เช่น 200V)
  • คุณสมบัติพิเศษ: บางรุ่นมีสปริงที่ด้ามจับช่วยให้ปากคีมเปิดอัตโนมัติ ซึ่งสะดวกมากสำหรับการใช้งานมือเดียว หรือบางรุ่นมีสวิตช์ล็อกเปิดปิดได้ตามต้องการ

คีมปากแหลม (Needle-Nose Pliers)

นี่คือ "ศัลยแพทย์ประจำกล่องเครื่องมือ" ของคุณ! ด้วยปลายคีมที่ยาวเรียวและแหลมกริบ ทำให้มันเข้าถึงพื้นที่แคบๆ ได้อย่างสบายๆ เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น งานอิเล็กทรอนิกส์ งานเครื่องประดับ หรืองานประปาที่ต้องจับหรือดัดชิ้นงานเล็กจิ๋ว บางรุ่นมีคมตัดสายไฟมาให้ด้วย ทำให้มันครบเครื่องเรื่องงานละเอียดจริงๆ

สกิลเด่น:

  • ความแม่นยำสูง: ปลายเรียวช่วยให้จับ ดัด หรือม้วนลวดเล็กๆ ได้อย่างเที่ยงตรง
  • เข้าถึงพื้นที่แคบ: ไม่ว่าซอกไหน มุมไหนที่คีมธรรมดาเข้าไม่ถึง คีมปากแหลมจัดการได้หมด

เหมาะสำหรับ: ช่างอิเล็กทรอนิกส์ คนทำเครื่องประดับ หรือใครที่ต้องทำงานกับชิ้นส่วนเล็กๆ และต้องการความละเอียดสูง

วิธีเลือกคีมปากแหลม : 

  • ความยาวและรูปทรงปลายคีม: พิจารณาว่างานของคุณต้องการปลายคีมแบบตรง หรือแบบงอ 45°/90° เพื่อเข้าถึงพื้นที่แคบมากๆ หรือดัดชิ้นงานในมุมที่ต้องการ
  • ขนาด: คีมปากยาว 6-8 นิ้วเป็นขนาดมาตรฐาน แต่ถ้าต้องการความละเอียดสูงมากๆ เช่น งานอิเล็กทรอนิกส์ อาจมีคีมขนาดเล็กกว่านี้
  • วัสดุ: เลือกคีมที่ทำจากเหล็กกล้าคาร์บอนชุบแข็ง เพื่อความแข็งแรงและทนทานต่อการบิดงอ
  • ด้ามจับ: สำหรับงานไฟฟ้า ต้องเลือกรุ่นที่หุ้มฉนวนกั้นไฟ 1,000V เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

คีมปากเฉียง (Diagonal Cutting Pliers)

ฉายาของคีมนี้คือ "นักตัดมือฉมัง" มันถูกสร้างมาเพื่อการตัดโดยเฉพาะ! ด้วยปากคีมที่เฉียงและคมกริบ ทำให้มันตัดวัสดุที่เป็นเส้นได้เรียบเนียน ไม่ว่าจะเป็นลวดทองแดง ลวดเหล็กขนาดเล็ก ลวดสลิง หรือแม้แต่ตะปูเล็กๆ ที่ยื่นออกมาหลังการติดตั้ง คีมชนิดนี้จะช่วยให้งานของคุณดูเนี้ยบขึ้นเยอะ

สกิลเด่น:

  • ตัดคมกริบ: ใบมีดออกแบบมาเพื่อการตัดที่เรียบเนียน ไม่ทิ้งเสี้ยน
  • แข็งแรง: โครงสร้างทนทาน รองรับแรงตัดได้ดีแม้จะเป็นคีมขนาดกะทัดรัด

เหมาะสำหรับ: งานไฟฟ้า งานก่อสร้าง หรือใครที่ต้องการตัดวัสดุที่เป็นเส้นให้ขาดออกจากกันอย่างสวยงาม

วิธีเลือกคีมปากเฉียง :

  • ขีดจำกัดการตัด: สำคัญที่สุดคือต้องทราบว่าคีมสามารถตัดลวดขนาดเท่าไหร่ได้ เพื่อป้องกันการใช้งานเกินกำลัง ควรเลือกรุ่นที่มีการระบุขีดจำกัดความหนาของลวดที่ตัดได้ชัดเจน
  • ความแข็งของใบมีด: ใบมีดควรผ่านการชุบแข็ง (มักระบุเป็น HRC 52-58) เพื่อให้คมทนทานและไม่ทื่อง่าย
  • ด้ามจับ: มีให้เลือกทั้งแบบด้ามหนา (กันลื่นได้ดี ให้แรงบีบกระชับ) และด้ามบาง (ควบคุมง่าย เหมาะกับงานละเอียด) เลือกตามความถนัด
  • รูปทรงใบมีด: บางรุ่นมีใบมีดเฉียงออกเล็กน้อยเพื่อเพิ่มแรงตัด ควรเลือกให้เหมาะกับประเภทลวดที่ตัดบ่อย

คีมอเนกประสงค์ (Combination Pliers)

นี่คือ "เพื่อนคู่ใจสายสมดุล" ที่รวมความสามารถในการจับและตัดไว้ในตัวเดียว! มันมีทั้งส่วนที่เป็นฟันหยาบสำหรับจับยึด และใบตัดลวดอยู่บริเวณฐาน เหมาะมากสำหรับงานไฟฟ้าและงานช่างทั่วไป เพราะคุณสามารถใช้มันดึง จับ และตัดสายไฟได้ในคราวเดียว ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องมือบ่อยๆ

สกิลเด่น:

  • สองในหนึ่ง: จับก็ได้ ตัดก็ดี ประหยัดเวลาและพื้นที่ในกล่องเครื่องมือ
  • แข็งแรงทนทาน: มักทำจากเหล็กคุณภาพดี ชุบโครเมียม ทำให้ใช้งานได้ยาวนาน

เหมาะสำหรับ: ช่างมือใหม่ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นจากคีมแบบไหน หรือใครที่ต้องการคีมที่ครอบคลุมการใช้งานพื้นฐานในตัวเดียว

วิธีเลือกคีมอเนกประสงค์

  • ความหนาปากคีมและใบมีด: ตรวจสอบว่าปากคีมกว้างพอสำหรับชิ้นงานที่ต้องการจับ และใบมีดตัดเหมาะสมกับขนาดลวดที่ใช้บ่อย
  • การชุบแข็ง: ใบมีดตัดควรผ่านการชุบแข็ง หรือมีการชุบอลูมิเนียม เพื่อเพิ่มความทนทานในการตัดสายแข็ง
  • ด้ามจับ: ควรเลือกด้ามจับที่ควบคุมง่าย กระชับมือ และหากใช้กับงานไฟฟ้า ควรเลือกรุ่นที่หุ้มฉนวนสำหรับงานแรงดันสูง
  • การเปิด-ปิดปากคีม: ทดสอบว่าคีมสามารถเปิดได้กว้างพอสำหรับวัตถุชิ้นงานที่คุณต้องการจับหรือไม่

คีมตัดพลาสติก (Plastic Cutting Pliers)

เรียกมันว่า "มือปราบพลาสติก"! คีมชนิดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตัดวัสดุอ่อนโดยเฉพาะ เช่น สายรัดพลาสติก (เคเบิลไทร์) แผ่นพลาสติกบางๆ หรือลวดอ่อนบางประเภท ด้วยใบมีดที่ออกแบบพิเศษให้ตัดแบบ "flush cut" ทำให้ได้ขอบที่เรียบเนียน ไม่บาดมือ ไม่ทิ้งรอยยื่นๆ ไว้ให้หงุดหงิด

สกิลเด่น:

  • ตัดเรียบเนียน: ให้ขอบการตัดที่สะอาด ไม่เป็นรอยหยัก
  • คมพิเศษ: ใบมีดบางและคมกริบ ทำให้ตัดผ่านพลาสติกได้ง่ายดาย

เหมาะสำหรับ: งานเก็บรายละเอียดหลังติดตั้งที่เหลือชิ้นส่วนพลาสติก หรือใครที่ต้องตัดสายรัด เคเบิลไทร์ หรือแผ่นพลาสติกบ่อยๆ

วิธีเลือกคีมตัดพลาสติก :

  • รูปทรงปากคีม: พิจารณาว่าคุณจะตัดชิ้นงานรูปทรงไหนบ่อยที่สุด เช่น สายรัดไทร์ หรือแผ่นพลาสติก อาจเลือกรุ่นที่มีใบมีดโค้งเพื่อการตัดที่เหมาะสมกับวัสดุทรงกลม
  • วัสดุใบมีด: ควรเลือกที่ทำจากเหล็กแข็ง (alloy steel) เพื่อการตัดที่ฉับไวและคมทน
  • ด้ามจับ: ด้ามจับควรเป็นแบบหุ้มยางหรือโพลิเมอร์ เพื่อให้กระชับมือและควบคุมง่าย
  • ความเรียบเนียนของการตัด: ตรวจสอบรีวิวหรือทดลองตัดดูว่าใบมีดสามารถตัดวัสดุได้โดยไม่เกิดคราบ หรือเศษพลาสติกติดอยู่บนคมมากนัก

คีมหุบแหวน คีมถ่างแหวน (Snap-Ring/Circlip Pliers)

นี่คือ "ผู้เชี่ยวชาญด้านแหวนล็อก"! มันคือคีมเฉพาะทางที่ใช้สำหรับติดตั้งและถอดแหวนล็อก (snap ring หรือ circlip) ที่ยึดอยู่กับชิ้นงานต่างๆ เช่น แหวนล็อกลูกสูบ หรือแหวนล็อกบนเพลา มีทั้งแบบถ่าง (สำหรับแหวนภายนอก) และแบบหุบ (สำหรับแหวนภายใน) ทำให้งานซ่อมบำรุงเครื่องจักรกล หรืองานยานยนต์ที่ต้องถอด/ใส่แหวนล็อกเป็นเรื่องง่ายขึ้นเยอะ

สกิลเด่น:

  • ออกแบบมาเพื่อแหวนล็อก: ปลายคีมเป็นตะขอเล็กๆ ที่เกี่ยวเข้ากับรูของแหวนได้พอดี
  • ป้องกันความเสียหาย: ช่วยถอดแหวนออกได้โดยไม่ทำให้แหวนหรือชิ้นงานเสียหาย และไม่บาดมือ

เหมาะสำหรับ: ช่างเครื่องยนต์ ช่างซ่อมเครื่องจักร หรือใครที่ต้องถอด/ใส่แหวนล็อกบ่อยๆ

วิธีเลือกคีมหุบแหวน คีมถ่างแหวน :

  • ชนิดแหวนล็อก: ระบุให้ชัดเจนว่าคุณจะใช้กับแหวนล็อกประเภทใด (ภายใน หรือ ภายนอก)
  • ขนาดหัวคีม: เลือกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางหัวคีมให้พอดีกับรูของแหวนล็อกที่คุณต้องใช้งาน เพื่อการจับยึดที่มั่นคงและไม่ทำให้แหวนเสียหาย
  • ด้ามจับ: ควรเป็นพลาสติกหุ้มฉนวน หรือวัสดุกันลื่น เพื่อการจับที่ถนัดและปลอดภัย
  • หัวเปลี่ยน: บางรุ่นมีหัวเปลี่ยนปลายคีมได้ (แบบ 2-in-1) ซึ่งจะช่วยประหยัดและสะดวกเมื่อต้องทำงานกับแหวนหลายชนิด

คีมตัดปอกสายไฟ (Wire Stripper Pliers)

ให้มันเป็น "มิตรแท้ของช่างไฟฟ้า"! คีมชนิดนี้รวมเอาฟังก์ชันการตัดและการปอกฉนวนสายไฟไว้ในตัวเดียว มีช่องเจาะหลายขนาดสำหรับปอกฉนวนสายไฟตามเกจด์ต่างๆ ช่วยให้การทำงานกับสายไฟเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ไม่ต้องสลับไปมากับคีมตัดหรือมีดปอกสายไฟ

สกิลเด่น:

  • ครบวงจรงานสายไฟ: ตัดก็ได้ ปอกก็ดี สะดวกและรวดเร็ว
  • แม่นยำ: ช่องเจาะขนาดต่างๆ ช่วยให้ปอกฉนวนได้โดยไม่ตัดโดนแกนทองแดง

เหมาะสำหรับ: ช่างไฟฟ้า หรือใครที่ต้องเดินสายไฟ ซ่อมสายไฟ หรือทำงานกับระบบไฟฟ้าบ่อยๆ

วิธีเลือกคีมตัดปอกสายไฟ :

  • ช่วงเกจด์สายไฟ: ตรวจสอบว่าช่องเจาะสำหรับปอกสายไฟคลอบคลุมเกจด์สายไฟที่คุณใช้งานบ่อย (เช่น 2210 AWG)
  • ด้ามจับ: ต้องหุ้มพลาสติกฉนวนกันไฟ (เช่น 1,000V) หากต้องใช้งานในสภาพที่อาจมีแรงดันไฟฟ้า
  • ฟังก์ชันเพิ่มเติม: บางรุ่นมาพร้อมฟังก์ชันปอกอัตโนมัติ (auto-stripper) ซึ่งสะดวกมากสำหรับงานจำนวนมาก เพียงแค่หนีบ สายก็จะถูกปอกฉนวนออกโดยอัตโนมัติ
  • คมตัด: ตรวจสอบว่ามีคมตัดสายไฟที่แข็งแรงและใช้งานได้จริง

คีมตัดสายเคเบิ้ล (Cable Cutter Pliers)

นี่คือ "นักตัดสายเคเบิลตัวจริง"! ออกแบบมาเพื่อตัดสายไฟและสายเคเบิลขนาดใหญ่โดยเฉพาะ เช่น สายทองแดงหรืออะลูมิเนียมถักหลายเส้น หรือสายไฟบ้านขนาดใหญ่ ด้วยใบมีดโค้งพิเศษและส่วนจับที่แข็งแรง ทำให้มันตัดสายได้สะอาด ไม่ดันสายออกนอกปากคีม และไม่บิดเบี้ยวขณะตัด

สกิลเด่น:

  • ตัดสายใหญ่ได้ดี: รับมือกับสายเคเบิลขนาดใหญ่ได้อย่างสบายๆ
  • ขอบตัดสะอาด: ใบมีดโค้งช่วยห่อหุ้มสายไว้ตลอดการตัด ทำให้ได้ขอบที่เรียบเนียน

เหมาะสำหรับ: ช่างไฟฟ้า ช่างประปา หรือใครที่ต้องตัดสายเคเบิลหรือสายไฟขนาดหนาบ่อยๆ

วิธีเลือกคีมตัดสายเคเบิ้ล :

  • ขีดจำกัดการตัด (Capacity): เลือกคีมที่สามารถตัดสายเคเบิ้ลขนาดที่ต้องการได้ เช่น ถ้าใช้ตัดสายไฟบ้านขนาด 2.54 มม.² ควรเลือกคีมที่ตัดสายได้ถึง 610 มม.² ขึ้นไป สำหรับงานหนัก อาจต้องการรุ่นที่ตัดได้ 20 มม. ขึ้นไป
  • ลักษณะใบมีด: ใบมีดควรใหญ่ แข็งแรง และมีลักษณะโค้งเพื่อ "เก็บ" สายไว้ตลอดการตัด ทำให้ได้ขอบตัดที่สะอาด ไม่บิ้ง
  • ด้ามจับ: ควรหนาและทนแรงกดได้ดี บางรุ่นอาจมีสะพานเสริม หรือเป็นระบบไฮดรอลิกสำหรับงานหนักมาก
  • วัสดุใบมีด: ตรวจสอบว่าใบมีดผ่านการเจียร์มุมเทียบตัดเฉพาะพลาสติกหรือโลหะอ่อนตามการใช้งาน เพื่อความคมทนทาน

คีมล็อค (Locking Pliers)

คีมชนิดนี้คือ "มือที่สามที่ช่วยจับยึด" ของคุณ! จุดเด่นคือกลไกล็อกค้างที่ช่วยหนีบจับชิ้นงานให้อยู่กับที่โดยอัตโนมัติ คุณไม่ต้องออกแรงบีบค้างเองตลอดเวลา สามารถปรับความกว้างปากและแรงล็อกได้ ทำให้มันยึดจับชิ้นงานได้อย่างมั่นคง เหมาะกับงานที่ต้องการแรงจับยึดสูง หรือเมื่อคุณต้องการมือช่วยจับชิ้นงานให้แน่นหนา

สกิลเด่น:

  • ล็อกค้างได้: หนีบจับชิ้นงานได้แน่นหนาโดยไม่ต้องออกแรงบีบ
  • แรงยึดจับสูง: เป็นเหมือนคีมจับยึดที่แนบติดกับชิ้นงานตลอดเวลา

เหมาะสำหรับ: งานซ่อมบำรุงทั่วไป งานก่อสร้าง หรือการเกษตร ที่ต้องการแรงยึดจับสูง หรือต้องการมือช่วยจับชิ้นงานให้มั่นคง

วิธีเลือกคีมล็อค (Locking Pliers) :

  • รูปทรงหัวคีม: 
    • ปากตรง: เหมาะสำหรับจับวัสดุสี่เหลี่ยมหรือหกเหลี่ยม เช่น น็อต หัวรีเวท ให้หน้าสัมผัสเต็มที่และออกแรงได้มาก เหมาะกับงานโลหะทั่วไป
    • ปากแหลม/โค้ง: เหมาะกับงานที่เข้าถึงพื้นที่แคบ หรือต้องการหนีบจับชิ้นงานชิ้นเล็ก เช่น การจัดสายไฟ หรือการดัดจับสายที่ซับซ้อน
    • ขนาดความยาว: เลือกขนาดที่เหมาะกับงานทั่วไป (เช่น 611 นิ้ว)
    • วัสดุ: ควรใช้เหล็กไนคุณภาพสูง และหน้าเหล็กอัดแข็ง เพื่อรองรับแรงขณะล็อก
    • ระบบปรับปาก: ระบบสกรูปรับปากควรละเอียด สามารถปรับความหนาของชิ้นงานและแรงจับยึดได้ เพื่อป้องกันชิ้นงานเสียหายจากแรงกดที่สูงเกินไป
    • กลไกปลดล็อก: รุ่นที่มีระบบปลดล็อกไว (Quick Release) จะสะดวกมาก ทำให้ทำงานได้ด้วยมือเดียว

คีมปากนกแก้ว (Bird-Beak/Circle Nose Pliers)

ให้นึกถึง "ศิลปินนักดัดลวด"! คีมชนิดนี้มีปลายโค้งเหมือนปากนก ใช้สำหรับงานที่ต้องดัดงอหรือตั้งรูปร่างของลวด เช่น การม้วนห่วง งานประดิษฐ์ งานทองเหลืองหรืองานทองหลอม ปลายคีมโค้งช่วยให้ควบคุมการดัดได้ละเอียด และไม่ทำลายพื้นผิวที่บอบบาง

สกิลเด่น:

  • ดัดโค้งละเอียด: ช่วยให้ควบคุมการดัดลวดหรือวัสดุเล็กๆ ได้อย่างแม่นยำ
  • ไม่ทำลายพื้นผิว: เหมาะกับวัสดุบอบบางที่ต้องการความประณีต

เหมาะสำหรับ: งานเครื่องประดับ งานประดิษฐ์ หรือใครที่ต้องดัดลวดให้เป็นรูปทรงต่างๆ อย่างละเอียด

วิธีเลือกคีมปากนกแก้ว :

  • รูปทรงปลายคีม: เลือกปลายที่เหมาะกับชิ้นงานที่คุณต้องการดัด
  • ปลายกว้าง: เหมาะสำหรับดัดห่วงขนาดใหญ่ หรือวัตถุกลม
  • ปลายเรียวยาว: สำหรับเข้ารูเล็ก หรือทำงานอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการปลายบางพิเศษ
  • วัสดุหัวคีม: ควรชุบแข็ง หรือใช้สเตนเลสคุณภาพสูง เพื่อทนทานต่อรอยขีดข่วนและแรงดัด
  • ด้ามจับ: ควรออกแบบให้สบายมือและควบคุมง่าย เพื่อการทำงานที่ละเอียดอ่อน

คีมย้ำ (Crimping Pliers)

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด นี่คือ "ผู้เชื่อมต่อมืออาชีพ"! คีมย้ำเป็นเครื่องมือสำคัญในการเชื่อมต่อสายไฟเข้ากับขั้วต่อหรือหางปลาต่างๆ ด้วยการใช้แรงกดอัดเพื่อให้สายไฟแนบกับขั้วต่ออย่างมั่นคง ปลอดภัย และไม่หลุดง่าย การย้ำที่ถูกต้องจะช่วยป้องกันการลัดวงจรและความร้อนสะสมได้เป็นอย่างดี

สกิลเด่น:

  • เชื่อมต่อแน่นหนา: ทำให้สายไฟกับขั้วต่อเชื่อมกันอย่างมั่นคงและปลอดภัย
  • ร่องย้ำหลายขนาด: รองรับหางปลาและขั้วต่อได้หลากหลายประเภท

เหมาะสำหรับ: ช่างไฟ ช่างอิเล็กทรอนิกส์ หรือใครที่ต้องติดตั้งระบบไฟฟ้าในรถยนต์ ตู้ไฟ หรืออุปกรณ์สื่อสาร
วิธีเลือกคีมย้ำ :

  • ร่องย้ำและขนาดสาย: ตรวจสอบว่าคีมมีร่องย้ำสำหรับขนาดสายและประเภทขั้วต่อที่คุณใช้งานบ่อย (เช่น 1.5/2.5/6.0 มม.² หรือรองรับหางปลาเปลือย/หุ้มฉนวน)
  • ระบบ Ratchet: หากต้องการความแม่นยำและแรงย้ำที่สม่ำเสมอ แนะนำคีมย้ำแบบ "Ratchet" ซึ่งจะล็อกคีมไว้จนกว่าจะกดย้ำจนสุดแรง
  • ฟังก์ชันอเนกประสงค์: บางรุ่นสามารถตัด-ปอกสาย-ย้ำได้ในตัวเดียว เหมาะกับงานไฟที่ต้องการความคล่องตัวสูง
  • ความแข็งแรง: ตัวคีมควรแข็งแรงทนทาน รองรับแรงบีบได้ดี

เห็นไหมว่าคีมแต่ละชนิดมีความสามารถเฉพาะตัวและถูกออกแบบมาเพื่อภารกิจที่แตกต่างกัน การเลือกใช้คีมให้ถูกประเภทและขนาดจะช่วยให้งานของคุณง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น และได้ผลลัพธ์ที่เป็นมืออาชีพสุดๆ เลยล่ะ! ที่สำคัญการเลือกคีมที่ "ใช่" ไม่ใช่แค่การมีเครื่องมือครบ แต่คือการมีเครื่องมือที่เหมาะสมกับภารกิจ เพื่อให้ทุกงานช่างของคุณราบรื่น มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยที่สุดครับ


บทความที่เกี่ยวข้อง
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ